16 พฤศจิกายน 2556

ความชัดเจน

วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
         วันนี้เป็นวันที่สองของการลงพื้นที่ฝึกงาน วันนี้เราตกลงกับพี่เลี้ยงเราว่าจะเดินไปที่ถนนราชดำเนิน พร้อมคุยกันถึงเรื่องลักษณะของผู้ที่ใช้ชีวิตในที่สาธารณะว่าแบ่งออกได้กี่ประเภทรวมความได้ทั้งสิ้น 13 ประเภท แต่ในวันนี้นั้นเราคุยเจาะจงลงไปแค่บุคคลที่เป็นผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะที่มีอาชีพเป็นพนักงานบริการเพื่อคลายความเครียตให้กับผู้อื่น หรือนั้นคือ Sex worker
          Sex worker หรือ พนักงานบริการ คือ บุคคลที่หาเลี้ยงชีพตัวเองด้วยการบริการทางเพศ ให้บริการทางด้านอารมณ์ จิตใจ โดยแลกกับค่าตอบแทน การเป็นพนักงานบริการอาจเนื่องมาจากเหตุหลายประการ เป็นต้นว่าความยากจนของครอบครัว ความจำเป็นในทางเศรษฐกิจประการอื่น การขาดความรักและความอบอุ่นจากพ่อแม่ การไม่เป็นที่รักและยอมรับของใคร ๆ การได้เห็นตัวอย่างในเรื่องเพศสัมพันธ์ที่ไม่ดีมาแต่เยาว์วัย ความผิดปรกติทางจิตใจเกี่ยวกับเรื่องเพศ การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ดี โดยมักยืนตามที่สาธารณะ ตามริมถนน บางคนเป็นทั้งคนเร่ร่อนและพนักงานบริการ (อ้างอิงจากหนังสือ การทำงานกับผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะ,12)
Sex worker มีช่วงอายุตั้งแต่ 11 – 80 ปี แบ่งได้สองช่วงคือ 1. ช่วงอายุ 11 – 29 นับเป็นช่วงสาวรุ่น 2. ช่วงอายุ 30 – 80 นับเป็นช่วงผู้สูงอายุ แบ่งการจัดพื้นที่การยืนอยู่รอบสนามหลวงอย่างเป็นระเบียบจะไม่มีการล้ำเส้นข้ามพื้นที่กันโดยเด็ดขาด และยังรวมไปถึงผู้ที่มีความหลากหลายทางด้านเพศที่บ้างคนก็มีอาชีพเป็นผู้บริการด้วย ในส่วนรายระเอียดปลีกย่อยที่มากกว่านี้เราขอไม่เอ่ยถึง
         เราได้รู้ถึงวิธีการสังเกตว่ามีวิธีการสังเกตที่กลิ่น เพราะเหล่าพนักงานบริการ จะใช้น้ำหอมกลิ่นเฉพาะ แต่มันกลับทำให้เราต้องหนักใจเนื่องจากเรามีปัญหาทางการรับรู้กลิ่น แยกประเภทกลิ่นไม่ค่อยจะถูก ถ้ากลิ่นไม่ฉุนติดฉมูกจริงแทบจะไม่รู้สึกเลย แต่ไม่เป็นไร เราคงต้องหาวิธีสังเกตอื่นแทน
ส่วนมากแล้วเหล่าพนักงานบริการมักจะไม่เปิดเผยตัวเอง อาจต้องใช้เวลาในการพูดคุยทำความรู้จักเป็นปีเราถึงจะทราบได้ เราจึงต้องใช้วิธีการสังเกตข้างต้นแทน และในบางคนที่มาเป็นพนักงานบริการอาจเป็นผู้ที่มีปัญหาทางจิตรวมอยู่ด้วย หรือเป็นผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่ในที่สาธารณะไปในขณะเดียวกัน เพราะฉะนั้น ผู้ที่ใช้ชีวิตในที่สาธารณะหนึ่งคนอาจถูกจัดไว้ได้หลายประเภทด้วยกัน
         หลังจากที่เรานั่งคุยกันถึงเรื่องพนักงานบริการไปได้สักพักแล้วตกลงว่าจะลงพื้นที่ไปคุยกับเหล่าเพื่อนของเราต่อ ก็ได้เกิดเหตุที่มีผู้ชุมนุมเดินขบวนมาทางถนนราชดำเนิน ทำให้การที่เราจะไปคุยกับเพื่อนของเราเริ่มยากขึ้น เพราะเหล่าเพื่อนของเหล่าไม่ชอบคนเยอะ บางคนอาจหนีหายไปแถวอื่น หรือบางคนอาจไปร่วมอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย เราจึงเดินกลับมาที่สนามหลวงบริเวณคลองหลอดพร้อมกับผู้ชุมนุมที่มีมากมาย และเราก็ได้เจอกับเพื่อนของเรา
         เราได้เจอกับพี่เวชแกเป็นผู้ติดสุรา แกเกิดที่กาญจนบุรี แกเป็นคนภูเขา และในขณะที่คุยกันอยู่ พี่เฉลิมก็เดินมา
          พี่เฉลิม คนเดิมผู้มาจากลำปาง วันนี้แกบอกว่าอยากจะทำบัตรประชาชนใหม่เพราะบัตรเก่าหายไป พี่เลี้ยงเราบอกว่าแกต้องกลับไปที่ภูมิลำเนาเดิมจึงจะสามารถทำบัตรใหม่ได้ แกได้ยินดังนั้นก็บอกว่าไม่อยากกลับไป แล้วแกก็ใช้เราไปซื้อน้ำมาให้หน่อยเนื่องจากขาแกเจ็บเดินข้ามถนนไปอีกฝั่งหนึ่งของคลองหลอดที่มีร้านขายของ 24 ชั่วโมงไม่ไหว เราเลยรับเงินจากแกมาแล้ววิ่งไปซื้อให้แต่พอกลับมาพี่เวชก็หายตัวไปซะแล้ว หลังจากนั้นเราก็คุยถามสารทุกข์สุกดิบกับพี่เวชแล้วขอตัวจากมาปล่อยให้แกไปหาที่พักผ่อนของตัวเอง
เรากับพี่เลี้ยงเดินไปเรื่อย ๆ ก็ไปเจอกับ ลุงคำไข หรือ ลุงไข ลุงไขแกมาจากสุริน อายุ 55 20 พฤศจิกายน นี้ก็ 56 ลูกเมียแกตายหมดแล้ว แกมาอยู่ที่นี่ได้ 4 – 5 เดือน ตอนแรกแกมาอยู่ที่หมอชิตแล้วไปอยู่แถวถนนราชดำเนิน แต่ถูกขโมยกระเป๋าไป ดีที่แกเก็บเงินไว้ที่กระเป๋ากางเกงเงินจึงไม่หายไปด้วย หลังจากนั้นแกก็มาอยู่แถวคลองหลอดสนามหลวงแทน แกยังบอกอีกว่าแกเคยไปอยู่ สถานสงเคราะห์แล้ว แต่มันไม่มีอิสระจะทำอะไรก็ต้องมีกฎ แกเลยมาอยู่ที่นี่แทนดีกว่า
         หลังจากที่เราได้คุยทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ เราพอจะจับจุดได้นิดหน่อยว่า เขาเหล่านี้ ล้วนต้องการเพียงแค่ อิสระ อิสระที่จะได้ทำตามใจตัวเองโดยที่ไม่ต้องถูกใครมาบังคับให้ทำอะไรก็ตามที่ตนเองไม่ชอบ แต่มันก็เป็นเพียงสิ่งเล็กน้อยที่เราเริ่มจะเห็น มันคงยังต้องใช้เวลาอีกมาก ในการเปิดมุมมองของเราให้ชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม

เขียนโดย  น้องดรีม นักศึกษาฝึกงาน

ไม่มีความคิดเห็น: