คำถามแรกที่ อยากถามสังคมกลับ คือ คุณรู้ไหมว่ามีคนที่ออกมาใช้ชีวิตในที่สาธารณะ ......????
    คำตอบที่เจอคือรู้ รู้แล้วอย่างไร ก็แค่รับรู้ ไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่คุณรู้ไหมว่าสิ่งที่คุณมองว่ามันไม่ได้เกี่ยวข้องนั้น ถ้าวันหนึ่งของในครอบครัวคุณ ออกมาอยู่ในที่สาธารณะ ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด  ๆ ก็ตาม เช่น ความจำเสื่อม มีอาการทางจิต หรือต้องหายออกจากสังคม
ที่เขาเคยอยู่ เคยเป็น เคยมี คุณจะตามหาไหม หรือเพียงแค่รับรู้เฉลย 
    หลายคนบอกว่า คนเหล่านี้ รักอิสระ ???? ในความเป็นจริงมันจริง ๆ หรอ คำว่า "รักอิสระ"เป็นคำที่สังคมยัดเหยียดให้เขาเองหรือเปล่า พอตัดสินเขาเองว่าเขารักอิสระ ไม่ชอบมีกฏเกณฑ์ พอมีนักข่าวลงมาสัมภาษณ์ คนที่อยู่ในที่สาธารณะก็จะบอกทันทีว่า รักอิสระ เพราะไม่อยากตอบคำถามให้มาก เท่านั้นแหละจบ นักข่าวก็จะไม่ถามต่อ ก้กลายเป็นว่า รักอิสระ คนเหล่านี้รักอิสระ แต่สุดท้ายที่เราอิสรชนลงพื้นที่ใช้เวลากว่า 10 ปี ในการทำงานในพื้นที่ ที่เรียกว่า เขาเป้นเหมือนญาติ เหมือนเพื่อน ที่เขาพร้อมพูดคุยกับเราได้ทุกเรื่อง เอาเข้าจริงไม่มีใครเลยรักอิสระ 
    อย่างลุงชัยพร ที่จบป.โท จากเมืองนอก มาเร่ร่อนที่สนามหลวง ที่เพิ่งลงข่าวไทยรัฐ ดูเหมือนว่าสุดท้ายบทสรุปคือรักอิสระ อยู่คนเดียว เข้ากับใครไม่ได้ แต่จริง ๆ พอลึกลงไป คือปมปัญหาครอบครัว ที่ทำให้เขาสุดท้ายก็ไม่กลับสู่ครอบครัว ที่กลับไม่ได้ มันไม่เหมือนเดิม ถึงแม้จะเจอลูก เจอญาติ แต่ก็ไม่เหมือนเดิม คนที่ออกมาใช้ชีวิตในที่สาธารณะ ทุกคน ย้ำว่าทุกคนมีปม ที่ทำให้ตนต้องออกมาจากบ้าน ภาวะการกดดันจากครอบครัว ความคาดหวัง การกดทับ ในสังคมครอบครัว จนกลายเป็นสังคมชุมชน ทำให้คนคนหนึ่งต้องทำตัวหายสาบสูญ ไม่มีตัวตนในสังคมดีกว่า 
    มาต่อด้วยการดื่มเหล้า ทุกคนมีปัญหาดื่มไหม โดยส่วนใหญ่ดื่ม ก็ไม่ต่างกัน คุณดื่มไวน์ราคาเป็นแสน กับเหล้าขาวราคา 40 บาท ก็เมาเหมือนหมาเช่นกัน แต่อาจจะเมาคนละทีคนละทาง หรือบางที คนรวยก็มาเมากับคนข้างถนน เพราะออกจากร้านมาเจอกัน คุยกันถูกคอ ในเมื่อประเทสยังขายเหล้าก็คงตัดสิ้นคนจากการดื่มไม่ได้หรอ เขาไม่มีเพื่อน เหล้าก็คือเพื่อน กินเพื่อลืม กินเพื่อนอนให้ได้ในข้างถนน ต่าง ๆ นานา 
คำถามต่อมา คุณเคยเห็นเขาบ้างไหม .....??? 
     สิ่งที่ อิสรชนอยากให้คุณเห็นคือ เห็นว่าเขาคนที่ออกมาใช้ชีวิตในที่สาธารณะ เป็นคนเท่ากันกับเรานี้แหละ มี 32 เท่ากัน มีสิทธิความเป็นคนเท่ากัน แต่สิ่งที่เขาไม่มีคือ เขาไม่มีเสียงที่จะเรียกร้องสิทธิ หรือเรียกร้อง บอกกล่าว หรือรับรู้ ในสิ่งที่เขาควรได้ตามสิทะิของเขา เช่น ยามเจ็บป่วย ตัวมอมแมม ไม่อาบน้ำ สถานพยาบาลส่วนใหญ่ด่านแรกก็ไม่รับและ ไล่กลับ ด่า มองว่าเป็นคนบ้า เพียงเพราะอะไร เพราะทัศนคติ ที่ตัดสินคนจากภายนอก หลายคนคงเคย ถ้าคุณแต่งตัวบ้าน ๆ ไปในที่หรูหรา หรือแค่สถานพยาบาล สถานราชการ ก็ถูกมองแต่หัวจรดเท้า แต่ถ้าแต่งอย่างหรูหรามีระดับ คุณจะเป็นเทวดาทันที การเลือกปฏิบ้ติมีทุกที 
  เมื่อเร็ว ๆ พยาบาลท่านหนึ่งจากจุฬาฯ ลงมาในพื้นที่ มาพูดคุย อึ้งว่าทำไหม สนามหลวง เหมือนมีบริการ ที่ครอบวงจร แต่ไม่มีหน่วยสถานพยาบาลใด ๆ ลงมาเลยสักครั้ง แต่ละเดือน มีคนตายข้างถนน ที่สังคมไม่เคยรับรู้เลย เฉลี่ยเดือนหนึ่งอย่างน้อย 1-2 คน ตายไม่ได้ตาย เพราะตัวตาย แต่กลายเป็นนาย นาง ไม่ทราบชื่อ ถูกเป็นศพไร้ญาติ แต่ตามทะเบียนบ้านก็ยังมีชื่ออยู่ วันดีคืนดี ชื่ออาจถูกสวมสิทธิ เป็นปัญหาระดับชาติ ทางความมั่นคง แต่ทุกรัฐบาลก็มองข้าม เพียงเพราะนักการเมืองเหล่านี้เข้าใจว่า คนเหล่านี้ ไม่มีสิทะิมีเสียง แต่ทุกครั้งคนเหล่านี้มีโอกาส เขาได้ทำบัตร เขาก็จะใช้สิทธิเสมอ แต่คุณก็มองเขาเสมอ อืม....
สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นเพียงเรื่องราวส่วนหนึ่ง ที่เรามาเล่าสู่กันฟัง แต่ยังมีเรื่องราวอีกมากมายในพื้นที่ พร้อมบอกต่อให้สังคมรับรู้ แค่ปลายจมูกที่มองว่าสวยงาม แต่ถูกกลบไว้ ทั้งที่ข้างในเป็นซิลิโคนที่เน่าแฟะ 
    สิ่งที่อิสรชนอยากจะบอกก็คือ มนุษย์ ทุกคนอยู่หได้เพราะมีเพื่อนเท่านั้น ความเป็นเพื่อนจะทำให้คนคนหนึ่งกล้าที่จัยืน กล้าที่จะเดิน เพราะเขารับรู้ไม่ได้อยู่คนเดียว แต่คุณมีเพื่อนที่อยู่กับเขา จำไว้ ว่าเพื่อน สำคัญที่สุดในการทำงานและการดำรงชีวิต สุดื้ายนี้ อิสรชนก็ต้องการเพื่อนจากสังคมในการแบ่งปัน เพื่อในเพื่อนอย่างอิสรชน ได้ทำงานเป็นเพื่อนกับคนข้างถนน ให้เขามีเพื่อน มีสิทธิที่เขาควรได้รับ ในฐานะเพื่อนมนุษย์ที่เท่ากันในสังคม
  ซินเจียยู่อี่ ซินนี่ฮวดไช้ เฮงๆ ร่ำรวยๆ ทุกท่านใครอยากแบ่งปัน ความสุข แบ่งปันรอยยิ้ม ให้อั่งเปา คนสนามหลวง
1. สมาคมสร้างสรรค์กิจกรรมอิสรชน เลขที่บัญชี 031-0-03432-9 ธ.กรุงไทย สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า หรือ
2. มูลนิธิอิสรชน 182-2-16241-6 ธ.ทหารไทย สาขาทองหล่อ เราเชื่อว่าการแบ่งปันไม่มีที่สิ้นสุด
โทร 086-687-0902
ทานเพื่อคนยากไร้เป็นมหาทานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดมหาทานหนึ่ง